ประวัติตำบลสาวชะโงก
ตำบลสาวชะโงกเดิมเป็นพื้นที่ราบลุ่มอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง ซึ่งน้ำทะเลจะท่วมเป็นบางครั้ง มีชาวจีนอพยพมาจากผืนแผ่นดินใหญ่เมื่อประมาณ ๑๐๐ ปี โดยเดินทางมาทางเรือเข้าตามลุ่มแม่น้ำบางปะกง เมื่อผ่านมาพบพื้นที่ติดริมแม่น้ำบางปะกงเห็นว่ามีความอุดมสมบูรณ์จึงจับจองปลูกบ้านเรือนและประกอบอาชีพทำสวน ค้าขาย สาวจีนนั้นเป็นคนผิวขาวหน้าตาสวยและมีครอบครัวหนึ่งก็มีลูกสาวที่สวย จนเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทั่วไป บ้านของหญิงสาวตั้งบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกงแล้วมีหนุ่มจากหมู่บ้านอื่นมาชอบ ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็เห็นชอบด้วย จึงตกลงมาสู่ขอและทำพิธีแต่งงานให้ หนุ่มนั้นมาจากหมู่บ้านตำบลบางโรงและถึงวันงานก็ยกขันหมากมาตามลุ่มแม่น้ำบางปะกง โดยการแห่ขันหมากมาเป็นขบวนเรือโห่ร้องกึกก้องไปทั่วคุ้งน้ำ จวนใกล้ถึงบ้านเจ้าสาว เจ้าสาวก็ขอดูบ้าง โดยการแอบดูที่หน้าต่างแต่ด้วยความรีบร้อนจึงเสียหลัก พลัดตกจากหน้าต่างคอหักตาย เมื่อเจ้าบ่าวทราบว่า เจ้าสาวพลัดตกลงมาก็เสียใจ ล่มเรือขันหมากจมลง ณ ที่ตรงนั้น ต่อมาบริเวณนั้นก็ถูกสร้างขึ้นมาเป็นวัดชื่อว่า วัดสามร่ม มาจนถึงปัจจุบัน และทางฝ่ายบ้านเจ้าสาวจึงได้ยกเรือนหอของทั้งสองให้กับวัดสาวชะโงก เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่คนทั้งสองให้ชื่อว่า วัดสาวชะโงก เมื่อแยกการปกครอง จึงได้ชื่อว่า “ตำบลสาวชะโงก”
ตำบลสาวชะโงกเป็นตำบลเก่าแก่มานานกว่า ๑๐๐ ปี ที่ตั้งมาพร้อมกับตำบลบางสวนซึ่งตำบลบางสวนเดิมเป็นที่ตั้งของอำเภอบางคล้า เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๔ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเขมร ต่อมาชาวจีนได้อพยพลงและยึดครองพื้นที่จนประชาชนชาวเขมรต้องอพยพมาตั้งถิ่นฐานบริเวณตำบลหัวสำโรง อำเภอแปลงยาว จนปัจจุบันนี้ตำบลสาวชะโงกประชาชนจะเป็นชาวจีน มีอาชีพทำสวนมะม่วง มะพร้าว พลู หมาก และแบ่งการปกครองออกเป็น ๖ หมู่บ้าน
เข้าชม : 1520 |