[x] ปิดหน้าต่างนี้
 

 
   กลับหน้าหลัก

แหล่งท่องเที่ยวในตำบลบางตลาด

                                    อุทยานพระพิฆเนศ จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นสถานที่สร้างองค์พระพิฆเณศ หรือพระพิฆเณศวร เนื้อสำริด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ท่ามกลางธรรมชาติทางการเกษตรของชาวบ้านในละแวกนั้น เป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินไทย เนื่องจากประติมากรรมพระพิฆเนศร์องค์นี้มีองค์ประกอบที่โดดเด่น คือ พระหัตถ์ 4 ถือพืชพรรณธัญญาหาร ดังนี้
   1.กล้วย

   2.ยอดอ้อย

  3.ขนุน

  4.มะม่วง และที่พระบาทมีหนูกอดลูกมะพร้าว ซึ่งมีความหมาย คือ ความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน
ประวัติความเป็นมา
    จากพระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ตอนหนึ่งความว่า "...ชนใดหวังข้ามอุปสรรค พึงพำนักพิฆเนศนาถาสำเร็จเสร็จสมดังจินดา พระองค์พาข้ามพิฆนะจัญไร..."  พระพิฆเนศร์ กำเนิดจากคติความเชื่องของศาสนาฮินดู เมื่อกว่า 4000 ปี ในประเทศอินเดีย คติการบูชาองค์พระพิฆเนศร์มีมาช้านาน ด้วยมีความเชื่อกันว่าท่านเป็นเทพผู้ประทานความสำเร็จ และขจัดอุปสรรคทั้งปวง ทั้งยังเป็นเทพที่แสดงออกถึงความสุข ความปีติ เป็นเทพแห่งความเสรีภาพและสันติสุข เป็นที่ยอมรับในระดับสากลมาโดยตลอด และหากจัดลำดับเทพที่มีผู้เคารพนับถือบูชาแล้ว พระพิฆเนศร์ถือได้ว่าเป็นเทพที่มีผู้นับถือมากที่สุดในโลก ทั้งในอินเดีย และประเทศต่างๆ นับสิบประเทศ คติความเชื่อเรื่องพระพิฆเนศร์ มีปรากฏเป็นหลักฐานในทวีปเอเซีย และแถบอุษาคเนย์ เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มานับพันปี ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงความเคารพไม่เสื่อมคลาย
    คนไทยคุ้นเคยกับบรรดาเทพท้งหาลายมาช้านาน แต่ในบรรดาเทพทั้งหมด คนไทยรู้จักพระพิฆเนศร์มากที่สุด เพราะท่านเป็นมหาเทพที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิถีไทยมากจนกล่าวได้ว่า คนไทยยอมรับในองค์พระพิฆเนศร์ เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการประกิบพิธีกรรมต่างๆ เป็นตราประจำกรมกองต่างๆ มากมาย แม้แต่พระนามแรกของบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ยังมีนามว่า "กรมหมื่นพระพิฆเนศร์สุรสังกาศ"
    พระพิฆเนศร์เป็นเทพแห่งปราชญ์ ความรู้ต่างๆ เป็นเทพแห่งการขจัดอุปสรรคความขัดข้อง ดังนั้นคติการบูชาเพื่อปรารถนาในการประสบความสำเร็จ ต่อกิจการทั้งปวง มักจะบูชาพระพิฆเนศร์ก่อนเป็นอันดับของของทุกพิธีกรรม ทุกตำราได้กล่าวถึงที่มาของพระพิฆเนศร์ไว้สูงสำคัญและฤทธิ์มาก มีความเฉลียวฉลาด มีคุณธรรม คอยช่วยเหลือปกป้องปราบปรามสิ่งชั่วร้าย และเป็นยอดกตัญญู แม่พระพิฆเนศร์จะเป็นเทพที่มีความเก่งกาจสามารถยิ่ง แต่ก็เป็นเทพที่สงบนิ่งไม่เย่อหยิ่ง ทระนง อันเป็นคุณสมบัติอันประเสริฐอีกประการหนึ่ง ของผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง
    จึงกล่าวได้ว่า พระพิฆเนศร์ เป็นมหาเทพที่ดีพร้อมครบถ้วนด้วยความดีงามสมควรแก่การยกย่องบูชาเป็นนิจ แม้แต่องค์พระศิวะมหาเทพผู้สร้าง และพระบิดาแห่งองค์พระพิฆเนศร์ยังกล่าวว่า "ไม่ว่าจะกระทำการสิ่งใดหรือทำพิธีบูชาใด ให้ทำการบูชาพระพิฆเนศร์ก่อนกระทำการทั้งปวง ผู้ใดต้องการความสำเร็จ ให้บูชาพระพิฆเนศร์ ผู้ใดต้องการพ้นจากความขัดข้องทั้งปวง ให้บูชาพระพิฆเนศร์"
    พระพิฆเนศองค์นี้เป็นผลงานของ นายพิทักษ์ เฉลิมเล่า ข้าราชการกรมศิลปากร ผู้มีผลงานอาทิเช่น การซ่อมแซมพระพรหมเอราวัณ
งานประติมากรรม นารายณ์กวนเกษรียรสมุทรที่สนามบินสุวรรณภูมิ
    วัตถุประสงค์ในการสร้าง
    - เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดฉะเชิงเทรา และของประเทศไทย โดยการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ขึ้น โดยมีองค์พระพิฆเนศร์เป็นประธาน ซึ่งจะเป็นงานประติมากรรมพระพิฆเนศร์ เนื้อโลหะบรอนซ์นอก(สำริด) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    - เพื่อความสมานสามัคคี ในหมู่ประชาชนเป็นสถานที่สืบสาน ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น
    - ส่งเสริมการพัฒนาอาชีพ อาทิเช่น การขายพีชผลเกษตรในท้องถิ่น อำเภอบางคล้า และในจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตร ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทย
    - ก่อให้เกิดการสร้างงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยสร้างความเจริญที่ยั่งยืน ให้กับชุมชนและประเทศชาติ
    - เพื่อเป็นสถานที่รวบรวมประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ของเมืองแปดริ้ว ทั้งในแง่สังคม-วัฒนธรรม
    - เพื่อเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวของแม่น้ำบางประกง ซึ่งมีธรรมชาติที่งดงามและอุดมสมบูรณ์
    - เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจกรรมสาธารณะกุศลทั่วไป
    การก่อสร้าง ได้พิจารณาใช้วัสดุ โลหะบรอนซ์นอก หรือ สำริดนอก ซึ่งโลหะที่ใช้ในการหล่องานประติมากรรมใหญ่ๆ และมีความคงทนถาวร อาทิเช่น พระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5 ก็หล่อด้วยบรอนซ์นอกเช่นกัน และนับได้ว่าจะเป็นพระพิฆเนศร์เนื้อโลหะสำริดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความสูง 30 เมตร หากรวมแท่นประดิษฐานจะมีความสูงรวมกัน 39 เมตร

 

 

                                                                                         บ้านเกาะลัด

     ตั้งอยู่ที่ หมู่ 2-3 บ้านเกาะลัด ตำบลบางตลาด อำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา
            
วัดคุ้งกร่างที่มีพระสีขาว จะมีสายน้ำแยกกันที่จุดนี้ เป็นสายน้ำที่เกิดจากการกัดเซาะตามธรรมชาติ จนทำให้แผ่นเดินขาดออกเป็นเกาะลัดในปัจจุบัน สายน้ำบริเวณนี้เชี่ยวมากเรือเล็กจะแล่นไปได้ช้ามาก แต่เป็นระยะไม่ไกลเราก็จะเจอสายน้ำอีกสายกับพระพิฆเณศ ยืนองค์ใหญ่ของฉะเชิงเทราที่สร้างใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว เห็นแนวเขื่อนคอนกรีตที่สร้างเอาไว้ตามแนวตลิ่งยาวมาก ห่างจากฝั่งหลายสิบแมตร ชวนให้สงสัยว่ามันคืออะไร ที่แท้ก็แนวกันตลิ่งพังจากการกัดเซาะเพราะกระแสน้ำที่ไหลเข้ามาจากแม่น้ำสายหนึ่งมาบรรจบแม่น้ำอีกสายหนึ่ง แล้วก็แล่นไปเรื่อยๆ เจอทางแยกเลี้ยวขวาจะเห็นรีสอร์ทที่บ้านพักเป็นเรือลำใหญ่ของท่านสนั่น แล้วก็จะได้เห็นบ้านเรือนที่ปรับตัวเข้ากับสภาพภูมิประเทศ

สวนปาล์ม ฟาร์มนก ฉะเชิงเทรา

 

              สวนปาล์มฟาร์มนกแห่งนี้ ตั้งอยุ่บนเนื้อที่มากกว่า 100ไร่ โดยเริ่มต้นจากท่าน ดร.โภคิน พลกุล เป็นผู้ก่อตั้ง วัตถุประสงค์คือ เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ และอนุรักษ์สายพันธุ์นกแก้วมาคอว์ รวมทั้งสัตว์ปีกสวยงาม สายพันธุ์ต่างๆ ที่หาดูได้ยากจากทั่วโลก โดยท่านมีความชอบส่วนตัวในนกแก้วมาคอว์ สายพันธุ์จากต่างประเทศเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เริ่มแรกเดิมทีได้เลี้ยงไว้ดูเล่นเป็นการส่วนตัวที่บ้าน จนวันหนึ่งท่านเห็นในความน่ารักและแสนรู้ของนกเหล่านี้ จึงอยากจะเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้และอนุรักษ์ รวมถึงเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ ไว้ให้หลายๆคนได้ชื่นชมเช่นเดียวกัน

 

   

 

                                                                                 

 

 



เข้าชม : 4520
 
กศน.ตำบลบางตลาด อำเภอคลองเขื่อน  จังหวัดฉะเชิงเทรา 
โทรศัพท์ ๐๓๘-๕๗๙๐๘๒ โทรสาร ๐๓๘-๕๐๙๒๔๙ E-mail : kaew_565@hotmail.com
Powered by MAXSITE 1.10   Modify by   นิกร เกษโกมล   Version 2.04tb    Admin