ประวัติตำบลก้อนแก้ว
1.1ประวัติความเป็นมา
ความเป็นมาของคำว่า “ก้อนแก้ว”บริเวณอันเป็นที่ซึ่งชาวบ้าน เรียกว่า “ก้อนแก้ว” คือ บริเวณด้านทิศตะวันตกของวัดก้อนแก้วปัจจุบัน ในส่วนที่เป็นบ่อกุ้ง ของนายทวี จันทกลัด ซึ่งเป็นที่อ่างใหญ่ลักษณะกลมเป็นท้องกะทะ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เส้นกว่า ลึกประมาณ 3 เมตร แต่ในส่วนก้นกะทะตรงกลางจะลึกพิเศษลงไปเหมือนแก้ว กว้างประมาณ 3 เมตร ฤดูน้ำมีน้ำเต็มอ่าง มีปลาหมอ ปลาดุก ปลาช่อน ปลาชะโด ปลาแมงฟู วัดก้อนแก้วเคยขอเป็นเขตอภัยทาน หน้าแล้งน้ำลดแต่ก็ไม่แห้งเดือน 3 เดือน 4 ยังมีน้ำขังให้ควายลงไปอาบเล่นได้ เด็ก ๆ ชอบลงไปเล่นซ่อนแอบในก้นแก้วบางคนเรียกว่า วังก้นแก้วพิกุลทอง ด้วยเป็นวังใหญ่ส่วนที่ลึกที่สุดเหมือนกับก้อนแก้ว
ประมาณปี พ.ศ. 2400 เศษ พระครูนันทศรีราจารย์ (หลวงพ่อเหลือ) ซึ่งเป็นเกจิกาจารย์ชื่อดังของจังหวัดฉะเชิงเทรา สมัยดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดสาวชะโงก แต่ด้วยพื้นเพของท่านเป็นคนก้อนแก้ว ด้วยเห็นว่าเป็นถิ่นเกิด กับเป็นตำบลใหม่ ท่านจึงชักชวนชาวบ้านใกล้วังก้นแก้วนั้น (อำแดงขลิบ ยกที่ให้สร้างวัดปี พ.ศ. 2157 โดยได้รับอนุญาตให้ตั้งวัดปี 2454)และเห็นว่าชื่อก้นแก้วฟังดูไม่เป็นมงคล จึงตั้งชื่อใหม่ว่า “วัดก้อนแก้ว” และเป็นชื่อของหมู่บ้านและตำบลในเวลาต่อมา1.1ประวัติความเป็นมา
ความเป็นมาของคำว่า “ก้อนแก้ว”บริเวณอันเป็นที่ซึ่งชาวบ้าน เรียกว่า “ก้อนแก้ว” คือ บริเวณด้านทิศตะวันตกของวัดก้อนแก้วปัจจุบัน ในส่วนที่เป็นบ่อกุ้ง ของนายทวี จันทกลัด ซึ่งเป็นที่อ่างใหญ่ลักษณะกลมเป็นท้องกะทะ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เส้นกว่า ลึกประมาณ 3 เมตร แต่ในส่วนก้นกะทะตรงกลางจะลึกพิเศษลงไปเหมือนแก้ว กว้างประมาณ 3 เมตร ฤดูน้ำมีน้ำเต็มอ่าง มีปลาหมอ ปลาดุก ปลาช่อน ปลาชะโด ปลาแมงฟู วัดก้อนแก้วเคยขอเป็นเขตอภัยทาน หน้าแล้งน้ำลดแต่ก็ไม่แห้งเดือน 3 เดือน 4 ยังมีน้ำขังให้ควายลงไปอาบเล่นได้ เด็ก ๆ ชอบลงไปเล่นซ่อนแอบในก้นแก้วบางคนเรียกว่า วังก้นแก้วพิกุลทอง ด้วยเป็นวังใหญ่ส่วนที่ลึกที่สุดเหมือนกับก้อนแก้ว
ประมาณปี พ.ศ. 2400 เศษ พระครูนันทศรีราจารย์ (หลวงพ่อเหลือ) ซึ่งเป็นเกจิกาจารย์ชื่อดังของจังหวัดฉะเชิงเทรา สมัยดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดสาวชะโงก แต่ด้วยพื้นเพของท่านเป็นคนก้อนแก้ว ด้วยเห็นว่าเป็นถิ่นเกิด กับเป็นตำบลใหม่ ท่านจึงชักชวนชาวบ้านใกล้วังก้นแก้วนั้น (อำแดงขลิบ ยกที่ให้สร้างวัดปี พ.ศ. 2157 โดยได้รับอนุญาตให้ตั้งวัดปี 2454)และเห็นว่าชื่อก้นแก้วฟังดูไม่เป็นมงคล จึงตั้งชื่อใหม่ว่า “วัดก้อนแก้ว” และเป็นชื่อของหมู่บ้านและตำบลในเวลาต่อมา
เข้าชม : 1906 |