ตำบลบางขวัญ แต่เดิมรวมอยู่กับตำบลบางแก้ว เหตุที่เรียกว่าตำบลบางขวัญ เนื่องจากในสมัยรัชการที่ 5 ได้แบ่งการปกครองโดยให้ขุนบางขวัญมาปกครองดูแลต่างพระเนตรพระกรรณ เมื่อมีการแบ่งเขตพื้นที่ตำบลออกจากตำบลบางแก้ว จึงใช้ชื่อตำบลตามชื่อของผู้ปกครองคนแรกว่า "ตำบลบางขวัญ"

ข้อมูลที่ 2 
     เมื่อประมาณ 86 ปีที่ผ่านมานั้น เรียกว่าบ้านสัมปทวน ซึ่งในอดีตนั้นเรียก บ้านสามพระทวน จากตำนานบอกเล่ากันมาว่า มีพระพุทธรูปสามองค์ ได้แสดงปาฏิหาริย์ ลอยทวนน้ำได้ แล้วผุดขึ้นตรงวัดสัมปทาน ในปัจจุบันประชาชน ประชาชน 500 คน ช่วยกันใช้เชือกมะลิผูกมัดดึงให้ขึ้นฝั่งแต่เชือกขาด พระพุทธรูปสามองค์ก็จมหายไป และได้ไปผุดขึ้นที่วัดโสธร คือหลวงพ่อพุทธโสธรองค์ปัจจุบัน องค์ที่สอง ได้มาผุดขึ้นที่วัดบ้านแหลม (หลวงพ่อวัดบ้านแหลม) จังหวัดสมุทรสงคราม องค์ที่สาม ผุดขึ้นที่วัดบางพลี (หลวงพ่อโต) จังหวัดสมุทรปราการ 
     บ้านสามพระทวน ได้เพี้ยนมาเป็นสัมปทานในปัจจุบัน และบ้านบางขวัญก็เป็นส่วนของตำบลสัมปทานมาก่อน จนประมาณ พ.ศ. 2465 ได้แยกออกเป็นตำบลบางขวัญ โดยเอาคลองที่เกิดจากธรรมชาติเป็นอาณาเขต และแบ่งเป็น 14 หมู่บ้าน (ในรูปของการปกครองท้องถิ่น) และคำว่า “บางขวัญ” ที่นำมาตั้งเป็นชื่อตำบลนั้น ในอดีตประชากรมีน้อย ปลูกบ้านอาศัยเป็นกลุ่มและห่างกัน ถากถางพื้นที่รกร้างจับจองเพื่อใช้ปลูกข้าวอย่างเดียว เรียกว่า ทำนา การทำนาคนไทยมีประเพณีการทำขวัญข้าว การปลูกข้าวทำกันปีละหนึ่งครั้ง เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวก็นำมานวดเก็บใส่ยุ้งฉางเอาไว้กินโดยการสีเอง ตำเอง เมื่อถึงเดือนสิบช่วงต้นข้าวตั้งท้องจะออกรวง ซึ่งต้นข้าวนั้นเรียกว่าแม่โพสพ ชาวบ้านก็จะทำขวัญข้าว คือการบูชาแม่โพสพ คือ การนำอาหารคาวหวาน ผลไม้ ผ้านุ่ง เครื่องแต่งตัว สำหรับผู้หญิง แป้งหอม น้ำมันหอม ให้แม่โพสพแต่งตัวให้สวยงาม เสวยอาหารคาวหวานให้อิ่มสำราญ เมื่อข้าวออกรวงจะได้สมบูรณ์ และประเพณีก็สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน แต่การทำนาก็ได้เปลี่ยนไปจาก 1 ครั้ง เป็น 2-3 ครั้ง หรือเป็นการทำการเกษตรอย่างอื่น คำว่าทำขวัญข้าว จึงได้มาเป็นชื่อของตำบล คือ ตำบลบางขวัญ สืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน