สถานที่สำคัญและเป็นยังแหล่งท่องเที่ยวของตำบลวังตะเคียน อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
วิหารแก้วพระโพธิสัตว์กวนอิม ตำบลวังตะเคียน อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามมาก ออกแบบก่อสร้างแตกต่างจากวิหารพระโพธิสัตว์กวนอิมโดยทั่วไปที่พบเห็นในประเทศไทย
วิหารแก้วพระโพธิสัตว์กวนอิม ประกอบด้วยอาคารหลักเป็นวิหารแปดเหลี่ยม ลักษณะรูปทรงแบบเก๋งจีนสูง 3 ชั้น ชั้นล่างประดิษฐานพระสังกัจจายน์ และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ชั้น 2 ประดิษฐานรูปปฎิมา " สมเด็จพระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร" ชั้น 3 ประดิษฐานพระบรมรูป "พระรัตนธรรมบงกช" หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อสีวลี สมเด็จโตพรหมรังษี และหลวงปู่ปาน วัดคลองด่าน
ผนังโดยรอบวิหารแปดเหลี่ยมทั้งสามชั้น เป็นกระจกแกะสลักประณีตสวยงามมาก ช่างเขียนรูปบนกระจกเพื่อให้ช่างแกะสลักต้องกินเจตลอดระยะเวลาที่เขียนรูป จึงสามารถเขียนภาพออกมาได้อย่างวิจิตรบรรจงและเช่นเดียวกัน ช่างแกะสลักก็ต้องกินเจด้วยเพราะงานแกะสลักจะเกิดปัญหาทันทีถ้าไม่กินเจ ภาพต่างๆบนกระจกโดยรอบวิหารแปดเหลี่ยมจึงอ่อนพลิ้วสวยงามเป็นที่สุด
ผนังกระจกชั้นล่างโดยรอบแกะสลักประวัตเทพแปดเซียน ชั้น 2 เป็นกระจกแกะสลักพระประวัติพระแม่กวนอิม และชั้น 3 เป็นกระจกแกะสลักพระประวัติสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอมิตตาภะ จากความสวยงามของภาพแกะสลักบนกระจก โดยรอบวิหารแปดเหลี่ยมทั้ง 3 ชั้นนี่เอง จึงเป็นที่มาของนาม " วิหารแก้วพระโพธิสัตว์กวนอิม"
นอกจากนั้นยังมีอาคารรอง ลักษณะแบบเก๋งจีน 2 ชั้นอีก 2 หลัง อาคารด้านทิศตะวันออก เป็นเรือนรับรองสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม อาคารทางด้านทิศตะวันตก ชั้นล่างเป็นโรงครัวและเป็นสถานที่รับประทานอาหาร ชั้นบนเป็นสถานที่ประทับทรงพระอริยะจี้กง
วิหารแก้วพระโพธิสัตว์กวนอิมแห่งนี้ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาก มีพญานาคราชเป็นเจ้าที่ เนื่องจากหลายพันปีมาแล้ว บริเวณนี้เป็นมหาสมุทรจึงมีพญานาคราชเป็นเจ้าที่แต่ดั้งเดิม ต่อมามหาสมุทรได้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก ทะเลจึงเลื่อนไกลออกไปกลายเป็นผืนดิน และเกิดเมืองขึ้นตรงบริเวณที่เป็นวิหารในปัจจุบัน เจ้าที่ในระยะต่อมาจึงเป็นเจ้าผู้ครองนครแห่งนี้ ซึ่งมีผู้มีจิตศรัทธา สร้างศาลเจ้าที่ถวายโดยประดิษฐานรูปแทนองค์เจ้าที่ทั้ง 2 คือ พญานาคราช และท่านเจ้าเมือง ท่านพญานาคราชองค์นี้ชอบไฟและชอบเล่นน้ำ น้ำในอ่างน้ำที่ตั้งท่านอยู่กระเพื่อมไหวเหมือนมีการเล่นน้ำ เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้มาสักการะอยู่เนืองๆ เป็นพญานาคที่ใจดีและให้คุณทางโชคลาภ
วิหารแก้วพระโพธิสัตว์กวนอิมได้มีผู้มีจิตศรัทธาสร้างถวายด้วยงบประมาณสูงถึง 104 ล้านบาท เพื่อให้เป็นสถานที่ประกาศบารมีอันแผ่ไพศาล แห่งองค์พระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ผู้ทรงมีเมตตาโปรดสัตว์น้อยใหญ่ในโลกมนุษย์ มีผู้ศรัทธาเข้ามากราบไหว้ขอบารมี ขอพร บนบานศาลกล่าวอยู่ตลอดเวลา นับวันแต่จะเพิ่มมากขึ้น และได้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปราถนาตามวาสนาบารมีของแต่ละคน จะเห็นได้จากการกลับมาแก้บนให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ นอกจากจะเป็นสถานที่ฉุดช่วยผู้ตกทุกข์ได้ยากแล้ว ยังเป็นสถานที่ปฎิบัติธรรม เพื่อเพิ่มพูนวาสนาบารมีและสั่งสมบารมีของผู้มาปฏิบัติธรรมด้วย
ทางด้านทิศตะวันออกของวิหาร มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งคือ ศาลปู่ท้าวมหาพรหม ปราถนาสิ่งใดเมื่อจุดธูปขอจากท่านให้ครบทั้ง 4 หน้าจักสำเร็จสมความปราถนา เมื่อสำเร็จสมความปราถนาแล้วก็ต้องแก้บนด้วยการจัดละครมารำถวาย หรือมาอยู่ปฏิบัติธรรม 7 วัน
อนึ่งโลกมนุษย์ในปัจจุบัน กำลังประสบภัยพิบัติต่างๆ นานัปการ ทั้งภัยจากธรรมชาติ ความทุกข์ยากลำบากในการประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตอยู่ ความทุกข์จากโรคภัยไข้เจ็บ แต่ละคนก็ประสบความทุกข์ ความเดือดร้อนแตกต่างกันไปไม่มีที่สิ้นสุด คณะสานุศิษย์ทั้งหลาย จึงได้ดำริให้มีการก่อสร้างรูปปฎิมา "สมเด็จพระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรพันกร พันเนตร" ขึ้นขนาดหน้าตักกว้าง 27 นิ้ว มีพระกรลอย 48 พระกร มีรัศมีด้านหลังโดยมีพระกรและพระเนตร บนรัศมี ครบพันกร พันเนตร หล่อด้วยทองเหลืองปิดทองคำ 100 เปอร์เซ็นต์ สิ่งของที่อยู่ในพระหัตถ์ลอย เป็นเงินแท้ทั้ง 48 ชิ้น เพื่อประดิษฐานเป็นองค์ประธานในวิหารแปดเหลี่ยม ชั้น 2 โดยจะทำพิธีเททอง ณ วิหารแห่งนี้ สำหรับวันเวลาในการเททอง พระแม่กวนอิมจะเสด็จมากำหนดให้ภายหลัง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการปั้นดิน ซึ่งพระแม่กวนอิมได้เสด็จมาประทานน้ำทิพย์เพื่อให้ผสมลงไปในดินนั้น และบอกให้ช่างปั้น นำดินปั้นส่วนหนึ่ง วางบนพาน จุดธูป 7 ดอกระลึกถึงพระแม่ เป็นเวลา 7 วัน แล้วจึงนำดินนี้ไปผสมร่วมกับน้ำทิพย์ และดินสำหรับปั้น เมื่อจะลงมือปั้นให้จุดธู) 7 ดอก ระลึกถึงพระแม่ทุกครั้ง งานปั้นจะสำเร็จ สมบูรณ์ สวยงาม และถูกต้องทุกประการ ท่านผู้ใดมีจิตศรัทธา ประสงค์จะร่วมสร้างองค์ประธานถวายพระแม่กวนอิม สามารถขอรายละเอียด และแสดงความจำนงค์ร่วมสร้างถวาย ได้ที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุนาฎ จันทนา โทร 01-578-7884 หรือ โทร 038-516-961 / 038-813-791
พระเมตตาบารมีของพระแม่กวนอิมยิ่งใหญ่ไพศาล ท่านปราถนาที่จะฉุดช่วย สัตว์โลกทั้งน้อยใหญ่ให้พ้นจากความทุกข์ และบรรเทาเบาบางลงได้ จึงโปรดให้เทพเสี่ยงไช้โพธิสัตว์เสด็จประทับทรง ช่วยเหลือมนุษย์ ทุกวันเสาร์ เวลา 13.00 น. และพระอริยะจี้กง เสด็จประทับทรง ทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.00 น.
สำหรับองค์พระแม่กวนอิม จะเสด็จประทับทรง เพื่อประทานพลังบารมี ประทานพรให้กับผู้ศรัทธาและสานุศิษย์ทั้งหลาย เฉพาะวันสำคัญ คือ วันเกิดของพระแม่ ซึ่งตรงกับวันที่ 19 เดือน 2 ของจีน และวันบูชาครู ประจำปี ซึ่งตรงกับวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ของทุกปี
วิหารแก้วพระโพธิสัตว์กวนอิมแห่งนี้ จัดเป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ จังหวัดฉะเชิงเทรา หากท่านเดินทางมากราบนมัสการหลวงพ่อโสธร ซึ่งเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ ของจังหวัดฉะเชิงเทรา ขอเชิญท่านแวะเยี่ยมชม วิหารแก้วพระโพธิสัตว์กวนอิม เพื่อกราบขอพรท่านและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลาย เพื่อความร่มเย็นเป็นสุข ความเจริญรุ่งเรือง จะปรากฎแก่ท่านและครอบครัว อย่างแน่นอน
สถานที่สำคัญของตำบลวังตะเคียน
วัดนครเนื่องเขต เดิมชื่อว่า วัดต้นตาล สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2430 โดยนายจันทร์ นางทรัพย์และนายแจ่ม พรหมสุวรรณ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงพระราชดำริให้มีการขุดคลองแสนแสบ จากกรุงเทพมหานครฯ มาถึง จังหวัด ฉะเชิงเทรา ซึ่งระยะทางที่ขุดคลอง มานั้นจะมาสิ้นสุด ที่บริเวณของวัดต้นตาลพอดี ซึ่งคลองในช่วงดังกล่าว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานนามว่า "คลองนครเนื่องเขต " อันหมายความว่า สุดเขตพระนคร โดยทางวัดก็ได้เปลี่ยนชื่อตามที่ทรงพระราชทานนามมา เป็นวัดนครเนื่องเขตตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
พระอุโบสถ หลังเก่า สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2434 ซึ่งปัจจุบัน ก็ยัง อนุรักษ์ ไว้ เป็น โบราณสถานที่สำคัญของชาว วังตะเคียนพระอุโบสถ หลังไหม่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2539 โดยพระครูสุนทร วัฒนวิธาน (จาง อุชุจาโร) ซึ่งท่านเป็นผู้ออกแบบ ในการสร้าง พระอุโบสถ โดยมีลักษณะพิเศษ คือ สร้างด้วย กระเบื้องเคลือบดินเผา ทั้งพระอุโบสถ มีความสวยงาม ต่างจากพระอุโบสถ ในที่ต่างๆ ดังนั้นจึงทำให้พระอุโบสถใหม่หลังนี้ ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง ยาวนานมาก จนปัจจุบัน ก็ยังไม่เป็นที่สมบูรณ์เจ้าอาวาสรูปแรกของ วัดนครเนื่องเขต คือ หลวงปู่บัว และพระภิกษุที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดคือ "หลวงพ่อเติม" ซึ่ง เป็นเจ้าอาวาส วัดนครเนื่องเขต ในรุ่นที่ 3 เนื่องจากท่าน เป็นพระอุปปัชาย์ ที่มีลูกศิษย์ ลูกหามากมาย หลวงพ่อเติม ศึกษาพระธรรมจน สำเร็จ ได้นักธรรมเอก ท่านจึง นำวิชาความรู้ที่เรียนมา สั่งสอน ศิษย์มากมาย จนมีพระภิกษุหลายรูปที่สอบได้นักธรรมอันดับหนึ่งของอำเภอ
นอกจากนี้ ท่านยังเป็นผู้ริเริ่ม สร้าง โรงเรียน ระดับประถมศึกษา ขึ้นในตำบล เรียกโรงเรียนนี้ว่า โรงเรียนวัดนครเนื่องเขต(ศรีไพจิตร) ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้เกิดขึ้นได้ จากแรงศรัทธา และความร่วมมือร่วมใจกัน ของประชาชนในตำบล ทำให้เด็กได้มีความรู้ ซึ่งในปัจจุบัน โรงเรียนแห่งนี้ ยังเปิดสอนอยู่ โดยเป็นโรงเรียน ขยาย โอกาส เปิดสอนตั้งแต่ ชั้น อนุบาล 3 - มัธยมศึกษาปีที่ 3
เข้าชม : 1386 |