พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ช่วงเมษายนนี้จะมีเทศกาลสงกรานต์ จึงขอแนะนำว่า บุตรหลานที่อยู่ต่างจังหวัด ไม่ควรเดินทางข้ามไปหาพ่อแม่ช่วงเทศกาลนี้ จะดีกว่าถ้าพวกเราต่างอยู่ในที่ตั้งของตัวเอง และหาวิธีการสื่อสารกับพ่อแม่ในประเพณีนี้ ส่วนคนที่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน แต่ยังทำงานนอกบ้าน ต้องทำตามข้อแนะนำอย่างเข้มงวด ต้องระวังให้มาก เพราะท่านจะกลับมาบ้านที่มีผู้สูงอายุ ควรถอดรองเท้าล้างมือให้สะอาด เดินเข้าบ้านอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ค่อยออกมามีปฏิสัมพันธ์ หากในบ้านมีผู้สูงอายุเจ็บป่วยอาจต้องสวมหน้ากากผ้าเพิ่ม และเลี่ยงการออกไปนอกบ้านเท่าที่ทำได้
“คนที่บ้านต้องเอาใจใส่อย่างยิ่ง ไม่นำไปสู่ความเสี่ยง เพราะทุกครั้งที่กลับเข้าบ้านถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่นำเชื้อไปสู่ผู้สูงอายุ ซึ่งหากผู้สูงอายุป่วยก็จะมีความเสี่ยงอาการรุนแรง และเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ ขอคนที่จะกลับมาจากต่างประเทศจำนวนหนึ่ง ขอร้องให้ไปอยู่ในที่ควบคุมเฝ้าระวังอาการ 14 วัน จนมั่นใจแล้วค่อยกลับบ้าน เพื่อจะได้ปลอดภัยทั้งคนเดินทางกลับและคนในบ้าน” พญ.พรรณพิมล กล่าว
พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า สำหรับการรดน้ำดำหัวนั้นไม่แนะนำ เพราะมีความเสี่ยงที่จะอยู่ใกล้ชิด และผู้สูงอายุมีโอกาสที่จะนำน้ำนั้นมาลูบใบหน้า ลูบตัว รวมถึงลูบ หรือพรมให้กับลูกหลาน ซึ่งนับเป็นความเสี่ยงได้ ดังนั้น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันผู้สูงอายุ แนะนำให้สวมหน้ากากกันทุกคนและกราบขอพร รับพรกันอยู่ห่างๆ ก็พอ ทั้งนี้ หากเราอดทนที่จะไม่อยู่ใกล้ชิดกันในระยะนี้เชื่อว่าเราจะสามารถผ่านสถานการณ์โรคระบาดไปในเวลาไม่นาน แต่ถ้ายังแสดงความรัก ความใกล้ชิดกันแบบนี้สถานการณ์จะลากยาวออกไป เพราะมีการพบผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น ในกลุ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะในบ้าน ส่วนคนที่อยู่ไกลให้โทรอวยพร แสดงความกตัญญูทางไกลแทน และอย่าลืมอธิบายให้ผู้สูงอายุเข้าใจด้วยว่า ทำไมรูปแบบการแสดงความใกล้ชิดถึงเปลี่ยนไปในช่วงนี้
เข้าชม : 691
|