วินาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “ไวรัสโควิด 19(Covid-19)” หรือ “ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019” ที่กำลังระบาดหนักอยู่ขณะนี้ กลุ่มไวรัสโคโรน่านั้น ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1960 ทำให้เกิดไข้หวัดทั่วไป แต่ไม่ได้มีอาการรุนแรงมาก ล่าสุดพบที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ต่างจากที่เคยเจอมาก่อน มีอาการตั้งแต่เล็กน้อย ปานกลาง ถึงรุนแรง และมีการแพร่กระจายเชื้อได้ ดังนั้นในวันนี้เราจะพาไป คำความเข้าใจและ วิธีป้องกันไวรัสโควิด 19 ให้มากยิ่งขึ้น
วิธีป้องกันไวรัสโควิด 19 ที่คนไทยต้องรู้…
ไวรัสโควิด 19 (Covid-19) คือเชื้อไวรัสที่มีรูปร่างคล้ายมงกุฎ พบครั้งแรกกลางทศวรรษที่ 1960 โดยมีเชื้อไวรัสโคโรน่าอยู่ 4 สายพันธุ์ใหญ่ ๆ ด้วยกัน แต่ตัวที่ระบาดมากที่สุดคือ SARS-CoV พบครั้งแรกที่ประเทศจีน ปี ค.ศ. 2002-2003 ซึ่งได้ระบาดไปทั่วโลกและมีอัตราการเสียชีวิตสูง ต่อมาพบเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ MERS-CoV เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศซาอุดีอาระเบีย ในแถบตะวันออกกลาง
จนกระทั่งล่าสุดพบ “เชื้อไวรัสโควิด 19 หรือ ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019” ที่เมืองอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย์ ตอนกลางของประเทศจีน โดยบริเวณที่พบผู้ป่วยมากที่สุดและคาดว่าน่าจะเป็นรังของโรค คือ ตลาดอาหารทะเลและสัตว์หายากในเมือง ซึ่งได้แพร่กระจายไปในหลายเมืองในประเทศจีนและหลายประเทศ เช่น ไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เป็นต้น
โดยเฉพาะในประเทศไทยเอง ผู้ป่วยรายแรกที่พบนั้นเป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนอายุ 61 ปี จากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งมีอาการไข้หนาวสั่น ปวดศีรษะและเจ็บคอ สามวันก่อนเดินทางมาที่ประเทศไทย ต่อมาได้เดินทางมาพร้อมครอบครัวเพื่อท่องเที่ยว เมื่อเดินผ่านเครื่องตรวจจับความร้อนที่สนามบิน (thermo scan) จึงพบว่ามีไข้ และถูกส่งตัวไปนอนรักษาที่โรงพยาบาลทันที อีกสองวันต่อมา ทางโรงพยาบาลสามารถแยกเชื้อโดยวิธีการทางโมเลกุลได้ว่าเป็นเชื้อ “ไวรัสโควิด 19” จึงรายงานไปที่องค์การอนามัยโลก และประเทศไทยได้ประกาศว่าเป็นประเทศแรกนอกเหนือจากประเทศจีน ที่มีผู้ป่วย ไวรัสโควิด 19 ในเวลานี้ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ทำการยกระดับการเตือนภัยความเสี่ยงการระบาดไปทั่วโลกของเชื้อไวรัสโควิด 19 อยู่ที่ระดับ “สูงมาก” หลังมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและมีการลุกลามไปยังประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
วิธีสังเกตอาการ (Covid-19)
หากได้รับเชื้อไวรัสโควิด 19 ผู้ป่วยจะเริ่มแสดงอาการออกมาภายใน 1 วัน ถึง 2 สัปดาห์ หลังจากได้รับเชื้อ โดยอาการเริ่มแรกของผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 นั้น ส่วนใหญ่จะเริ่มจากการมีไข้สูง > 37.5 องศา ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หายใจหอบเหนื่อย ถ่ายเหลวท้องเสีย หากผู้ป่วยมีร่างกายไม่แข็งแรงหรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ จะทำให้มีความรุนแรงถึงขั้นวิกฤตและเสียชีวิตได้
ด้านดร. อเดล แมคคอร์มิค นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเวสต์มินสเตอร์ ในอังกฤษ ระบุว่า การป้องกันการได้รับเชื้อทำได้โดย “หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า, ปาก, จมูก และดวงตา” เนื่องจากมันอาจเป็นช่องทางที่ไวรัสจะเข้าสู่ร่างกายและทำให้เกิดการติดเชื้อได้ พร้อมแสดงวิธีการดีที่สุดที่จะช่วยป้องกันคุณจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ล่าสุดทาง…นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า แพทย์หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า วิธีชี้ว่าใครคนหนึ่งติดโควิด-19 คือการสังเกตุตรงประสาทรับกลิ่น โดยข้อมูลจากแพทย์หลายประเทศชี้ตรงกันอย่างหนึ่งว่า คนที่ติดไวรัสโควิดจำนวนมากมีอาการจมูกไม่สามารถรับกลิ่นได้เป็นปกติ เช่น กลิ่นดอกไม้ต่างๆ กลิ่นแชมพู กลิ่นอาหาร รวมไปถึงอาการลิ้นไม่รับรส โดยการเสียประสาทรับกลิ่นเรียกว่า Anosmia อาการลิ้นไม่รับรสเรียกว่า Ageusia สองอย่างนี้สามารถทำให้เราคาดเดาได้ว่าติดโควิดหรือเปล่าเพราะแพทย์เชื่อว่าไวรัสไปทำร้ายบางอย่างแถวจมูกกับลิ้น นอกจากนี้แพทย์ยังบอกอีกว่า หากช่วงนี้ใครสูญเสียประสาทรับกลิ่นหรือลิ้นไม่รับรส อาจจะเสียติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดังนั้นควรไปตรวจโควิด-19ที่โรงพยาบาล ถึงแม้ว่าตัวท่านยังมีอาการอื่นๆ ก็ตาม
โควิด-19 ‘ไม่แพร่ทางอากาศ’ ผอ.องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงข่าวประจำวัน แจงข้อเท็จจริง โควิด-19 ไม่แพร่กระจายทางอากาศ แต่ส่วนใหญ่ติดผ่านฝอยละอองที่มาจากผู้ติดเชืนายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) แถลงข่าวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่นนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ย้ำข้อเท็จจริงว่า ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ สาเหตุโรคโควิด-19 ไม่แพร่กระจายทางอากาศ การติดต่อส่วนใหญ่ติดผ่านละอองฝอยจากการไอ จาม หรือพูดโดยผู้ติดเชื้อ ดังนั้น เพื่อป้องกันตนเอง ดับเบิลยูเอชโอแนะนำให้ยืนห่างจากคนอื่น 1 เมตร ฆ่าเชื้อบนพื้นผิวบ่อย ๆ หมั่นทำความสะอาดหรือขัดถูมือ และหลีกเลี่ยงการนำมือสัมผัสตา จมูก ปาก
วิธีป้องกัน (Covid-19)
เข้าชม : 1244
|