อย. ย้ำเจลล้างมือยังคงเป็นเครื่องสำอางแต่ปริมาณแอลกอฮอล์ต้องถึง 70% แนะสูตรเจลทำเองได้
เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ขณะนี้ที่มีการระบาดของโควิด-19 ในหลายประเทศทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ที่มีความจำเป็นต้องใช้ในการป้องกัน และรักษาสุขลักษณะที่ดีของร่างกาย ผลิตภัณฑ์หนึ่ง คือ เจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซึ่งประชาชนหาซื้อเป็นจำนวนมากจนผลิตภัณฑ์ขาดตลาดและมีหลายภาคส่วนกังวลว่า การปรับสถานะของเจลล้างมือแอลกอฮอล์จากเครื่องสำอางเป็นเครื่องมือแพทย์ยิ่งทำให้ผลิตภัณฑ์ขาดแคลนมากขึ้นนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รับนโยบายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่เจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ขาดแคลน จึงต้องการให้ประชาชนมีเจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ใช้อย่างเพียงพอหรือสามารถทำใช้ได้เอง วันนี้ (5 มีนาคม 2563) อย. จึงได้เชิญผู้ประกอบการผลิตเจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ชี้แจงให้เข้าใจสถานะของผลิตภัณฑ์ว่ายังคงเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางตาม โดยคณะกรรมการเครื่องมือแพทย์ได้มีมติให้ผลิตภัณฑ์เจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ไม่ต้องเป็นเครื่องมือแพทย์ และให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดกฎหมายของเครื่องสำอาง โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์ตั้งแต่ 70 % ขึ้นไป เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และชี้แจงให้ผู้ประกอบการทราบวิธีการผลิตที่ถูกต้อง และเร่งเพิ่มกำลังการผลิต พร้อมทั้งเตรียมมาตรการอำนวยการความสะดวกในการรับจดแจ้ง และให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการเพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็นไปตามมาตรฐานและมีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
นอกจากนี้ อย. ขอแนะนำสูตรเจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่มีประสิทธิภาพ สามารถทำเองได้ 4 สูตร ดังนี้
สูตร 1 ดัดแปลงจากองค์การอนามัยโลก วิธีทำ นำเอทิลแอลกอฮอล์ (ethyl alcohol 95% v/v) 833.3 มิลลิลิตร ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (hydrogen peroxide 3%) 41.7 มิลลิลิตร และกลีเซอรีน (Glycerin 98%) 14.5 มิลลิลิตรผสมให้เข้ากันในภาชนะที่มีปริมาตรบอกขนาด 1000 มิลลิลิตร แล้วเติมน้ำกลั่นหรือน้ำต้มสุกที่ทิ้งให้เย็นแล้ว จนครบ 1000 มิลลิลิตร คนเบา ๆ ให้เข้ากัน
สูตรที่ 2 จากองค์การอนามัยโลก วิธีทำ นำไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (isopropyl alcohol 75% v/v) 751.5 มิลลิลิตร ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide 3%) 41.7 มิลลิลิตร และกลีเซอรีน (Glycerin 98%) 14.5 มิลลิลิตร ผสมให้เข้ากันในภาชนะที่มีปริมาตรบอกขนาด 1000 มิลลิลิตร แล้วเติมน้ำกลั่นหรือน้ำต้มสุกที่ทิ้งให้เย็นแล้ว จนครบ 1000 มิลลิลิตร คนเบา ๆ ให้เข้ากัน
สูตรที่ 3 จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ วิธีทำ ค่อย ๆ เทคาโบพอล 940 (Carbopol 940) จำนวน 2.5 กรัม ลงในน้ำร้อน 142.75 กรัม คนให้สม่ำเสมอจนละลายหมด ก่อนจะปล่อยให้พองตัวเต็มที่ แล้วเติมเอทิลแอลกอฮอล์ (ethyl alcohol 95% v/v) 350 กรัม คนไปเรื่อย ๆ ให้เข้ากัน จากนั้นเติมไตรเอทาโนลามีน (triethanolamine) 1.75 กรัม เพื่อปรับความเป็นกรดด่าง เติมกลีเซอรีน (glycerin) 3 กรัม เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จะได้แอลกอฮอล์เจลประมาณ 500 กรัม
สูตรที่ 4 วิธีทำ นำเอทิลแอลกอฮอล์ (ethyl alcohol 95% v/v) 75 มิลลิลิตร ผสมกับกลีเซอรีน (glycerin) 5 มิลลิลิตร และน้ำสะอาด 20 มิลลิลิตร คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า ส่วนประกอบในการทำเจลล้างมือต่าง ๆ ประชาชนสามารถหาซื้อวัตถุดิบได้จากร้านขายเคมีภัณฑ์หรือร้านขายยาขององค์การเภสัชกรรม ส่วนวิธีการใช้เจลล้างมือที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ที่ถูกต้องนั้น ควรลูบให้ทั่วฝ่ามือและนิ้วมือ ทิ้งไว้ 20-30 วินาที จนแอลกอฮอล์แห้ง หากรู้สึกว่าผิวแห้งสามารถใช้ครีมบำรุงผิวร่วมได้ และระมัดระวังการเก็บหรือการใช้ อย่าวางเจลใกล้ความร้อนหรือเปลวไฟ เพราะแอลกอฮอล์ติดไฟง่าย สุดท้ายนี้ ขอฝากไปยังผู้บริโภคขอให้ตรวจสอบเลขที่จดแจ้งก่อนซื้อเจลล้างมือเพื่อให้มั่นใจว่าได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไป ตามที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากการใช้เจลล้างมือที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่ถึง 70% เป็นประจำอาจส่งผลให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยาได้ ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบเลขรับจดแจ้งได้ที่เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th หัวข้อ “ตรวจสอบผลิตภัณฑ์” หรือ Oryor Smart Application หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน อย.1556